การจัดการกับอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยก: สาเหตุ และ วิธีป้องกัน

การจัดการกับอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยก: สาเหตุ และ วิธีป้องกัน

การใช้รถยกหรือ โฟล์คลิฟท์มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง เป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการย้ายวัสดุและเครื่องจักรที่มีน้ำหนักหนัก จึงมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากลักษณะของงานที่มีการยกระหว่างการทำงาน เช่น การยกวัตถุหนักๆ การเคลื่อนย้ายวัตถุในพื้นที่จำกัด หรือการเคลื่อนที่ในที่แคบ ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยก เราจำเป็นต้องทราบถึงสาเหตุที่เป็นสาเหตุหลักและมีวิธีป้องกันที่เหมาะสม

สถิติการเกิดอุบัติเหตุจากรถยกต่อ 1 ปี

ตามการประมาณการขององค์การป้องกันแรงงานแห่งชาติ (OSHA) จำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการใช้รถยกปีละ 35,000 ถึง 62,000 คน ถือเป็นปัญหาที่สำคัญในวงการอุตสาหกรรม ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐอเมริการายงานว่าในปี 2017 มีผู้บาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับรถยกจำนวน 9,050 ราย และลดลงมาเหลือเพียง 7,940 รายในปี 2018 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ามีการปรับปรุงเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้รถยก

การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการใช้รถยกมักมีความรุนแรงมากกว่าการบาดเจ็บในงานอื่น ๆ โดยมีจำนวนวันหยุดงานเฉลี่ยอยู่ที่ 13 วัน เมื่อเทียบกับงานอื่น ๆ ที่อยู่ที่ 8 วัน ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการเสริมความปลอดภัยในการใช้รถยก

นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่บริษัทต้องจ่ายหากเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถยกมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 41,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากและสามารถลดลงได้ด้วยการป้องกันอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ปฏิบัติงานที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถยกปีละประมาณ 75 – 100 คน โดยค่าเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 87 คนต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนที่ยังคงสูงและเป็นที่น่าเป็นห่วงสำหรับวงการอุตสาหกรรมในการพัฒนามาตรการป้องกันเพิ่มเติมเพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถยกในอนาคต

อุบัติเหตุรถยกในที่ทำงาน ที่พบบ่อยที่สุด

อุบัติเหตุรถยกในที่ทำงาน ที่พบบ่อยที่สุด

อุบัติเหตุที่เกิดจากรถยกเป็นเหตุการณ์ที่พบบ่อยในสถานที่ทำงานที่มีการใช้งานรถยกอย่างต่อเนื่องมีดังนี้

  1. เหตุชนกันระหว่างรถยก: เกิดจากการขับรถยกอย่างไม่ระมัดระวังหรือการไม่สนใจที่สิ่งรอบข้าง อาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งในรถยกและวัตถุรอบข้าง หรือเมื่อรถยกชนกับรถหรือวัตถุอื่น อาจทำให้เกิดบาดเจ็บและความเสียหายต่อทั้งคนและทรัพย์สิน
  2. เหตุล้มของวัตถุหนัก: เกิดจากการยกวัตถุที่มีน้ำหนักมากเกินไปหรือไม่ถูกวางในตำแหน่งที่เหมาะสม อาจทำให้รถยกเสียหลักและวัตถุล้มลงมา เป็นเหตุให้เกิดบาดเจ็บร้ายแรงแก่ผู้ใช้รถยก
  3. เหตุพลิกคว่ำของรถยก: เกิดจากการยกวัตถุที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น พื้นที่ลื่น หรือถนนที่ไม่ราบ อาจทำให้รถยกเสียสมดุลและคว่ำลง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
  4. เหตุชนของรถยกกับพนักงานในโรงงาน: การเคลื่อนย้ายของรถยกในพื้นที่แคบหรือแสงสว่างน้อยอาจเกิดการชนกับวัตถุหรือบุคคลที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายและบาดเจ็บได้
  5. การใช้งานไม่ถูกต้อง: เช่น การไม่ทำการตรวจสอบรถยกก่อนการใช้งาน หรือผู้ปฏิบัติงานทำงานโดยไม่ได้รับการอบรมรถยกทำให้ไม่รู้วิธีการใช้งานอย่างถูกต้องและจุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษในการปฏิบัติงาน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
  6. การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงอื่นๆ: เช่น การทำงานในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของยานพาหนะอื่น การทำงานในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศที่ไม่ดี พื้นที่ในการเคลื่อนไหวไม่เหมาะสม (พื้นลื่น ขรุขระเกินไป ฯลฯ) เป็นต้น

สาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยก

สาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยก

1. การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง

การใช้งานรถยกโดยไม่คำนึงถึงน้ำหนักที่เหมาะสมหรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน อาจทำให้เกิดการเจ็บปวดและความเสียหายต่อเครื่องจักร

2. ขาดความระมัดระวัง

ความไม่ระมัดระวังขณะทำงานอาจส่งผลให้เกิดการชนกับวัตถุหรือบุคคลอื่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุ

3. ขาดการฝึกอบรม

ผู้ใช้รถยกที่ไม่ได้รับการอบรมเกี่ยวกับวิธีการใช้งานอุปกรณ์อาจทำให้ไม่รู้วิธีการใช้งานที่ถูกต้องและเป็นอันตราย

4. การบำรุงรักษารถยก

การไม่บำรุงรักษารถยกอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดความเสียหายที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุในภายหลัง

5. สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

การใช้งานรถยกในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น พื้นผิวลื่น พื้นที่แคบ หรือสภาพอากาศที่ไม่ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

วิธีการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยก

วิธีการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยก

1. การอบรมและการฝึก

จัดหาการอบรมและฝึกอบรมสำหรับผู้ใช้รถยกเพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัย

2. การตรวจสอบระบบควบคุม

เพื่อให้แน่ใจว่าระบบควบคุมของรถยกทำงานอย่างถูกต้องและปลอดภัย

3. การบำรุงรักษา

ปฏิบัติการบำรุงรักษารถยกอย่างเคร่งครัด ตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้รถยกทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

4. การตรวจสอบสภาพแวดล้อม

การตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบก่อนทำงาน เช่น สภาพพื้นผิว การเรียงลำดับพื้นที่ และสภาพอากาศ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

5. การใช้อุปกรณ์ป้องกัน

การใช้อุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ เช่น หมวกกันน็อค และเสื้อกันกระแทกสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ผู้ใช้รต้องทำการตรวจเช็คสภาพรถยก ตรวจสอบพื้นที่การทำงานก่อนการยกของ การกำหนดเส้นทางการเคลื่อนไหวของรถยก และการสื่อสารระหว่างผู้ใช้รถยกและบุคคลอื่นที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับการทำงานนั้นๆ

นอกจากนี้การสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ปลอดภัยภายในองค์กรมีบทบาทสำคัญอีกด้วย โดยการสร้างมนุษย์หลักการในการใช้งานรถยกอย่างปลอดภัยและการส่งเสริมการรายงานอุบัติเหตุหรือสภาพอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหรือป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต

สรุป

การป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยกต้องเน้นทั้งการฝึกอบรมและการใช้อุปกรณ์ป้องกันอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมที่เน้นการทำงานที่ปลอดภัยภายในองค์กร โดยการตรวจสอบและปรับปรุงขั้นตอนการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การใช้งานรถยกเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สูงสุด การมีการวางแผนและการดำเนินงานอย่างรอบคอบและระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยกในสถานที่ทำงาน

หากคุณสนใจเข้าอบรมรถยกชนิดต่างๆ สามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งแบบอินเฮ้าส์ และบุคคลทั่วไปได้ที่นี่ : อบรมโฟล์คลิฟท์