รถสแต็กเกอร์ไฟฟ้า (Staker) คือเป็นรถที่นำเอาระบบไฮดรอลิคมาเป็นตัวช่วยผ่อนแรงในการยกของที่มีน้ำหนักมาก โดยอาศัยแรงดันจากน้ำมันไฮดรอลิค ซึ่งถูกส่งมาโดยปั๊มไฮดรอลิคที่ติดตั้งอยู่ในรถและอาศัยแรงขับปั๊มจากมอเตอร์ รถยกสามารถขับเคลื่อนย้ายของที่ยกจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ด้วยอาศัยแรงจากมอเตอร์ การทำงานเน้นยกสูง วางขอบนชั้นวางของ ทดแทนการใช้งานรถยกโฟล์คลิฟท์ ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานจึงมีความจำเป็นจะต้องเรียนรู้วิธีการขับขี่และใช้งานรถสแต็กเกอร์ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย
รถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) มีความคุ้มค่าในระยะยาวมากที่สุด เพราะการใช้พลังงาน ไฟฟ้าเป็นต้นทุนที่ถูกที่สุด และเนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ความร้อนสูง ที่จะทำให้ระบบมีการสึกหรอสูง ไม่มีระบบเครื่องยนต์และเกียร์ที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายจากการถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์รวมทั้ง ระบบ หล่อเย็น เช่นหม้อน้ำ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลถูกกว่า ถ้าเทียบกับการดูแลแบตเตอรี่ แม้ตัวรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) จะมีราคาซื้อสูงที่สุด แต่ด้วยอายุการใช้งาน และค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้งานต่ำ จึงถือว่าประหยัดที่สุดในทุกระบบ ส่วนรถฟอร์คลิฟท์ดีเซล (Diesel Forklift) การบำรุงรักษาตามแผนโดยรวมจะน้อยเมื่อเทียบกับรถฟอร์คลิฟท์โพรเพน (LPG Forklift) ที่ถูก ออกแบบมามีความคงทนน้อยที่สุดแต่ก็มีราคาซื้อถูกที่สุดหากเทียบกับระบบอื่นๆ
รถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะถือว่าเป็นพลังงานสะอาด ขณะทำงาน ไม่มีควัน เขม่าใดๆ และเกิดเสียงน้อย ทำให้ดีต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อผู้ใช้เป็นอย่างมาก รถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) ยังถูกออกแบบมาให้ความโดดเด่นในความมั่นคงในการยก สินค้าก่อให้เกิดความปลอดในการใช้งานสูง
ส่วนระบบแก๊สมีความเสี่ยงด้านอัคคีภัยสูงและหากเกิดขึ้นจะมีโอกาสร้ายแรงกว่าระบบอื่นและจะต้องมีการดูแลอย่างรอบคอบ เนื่องจากหากมีการรั่วไหลขณะเปลี่ยนถังอาจทำให้มีการระเบิดได้ รวมถึงการเก็บ น้ำมันดีเซลสำรองในโกดังล้วนแต่มีความเสี่ยงกว่าระบบไฟฟ้าโดยทั้งสิ้น รถฟอร์คลิฟท์ดีเซล (Diesel Forklift) ถือว่าไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมที่สุดทั้งเสียงรบกวน ควัน การสะสมความร้อน
การใช้งานที่ต้องการแรงบิดสูงและ / หรืองานหนักต่อเนื่อง ทำได้ดีที่สุดในอัตรารอบต่ำ รองลงมารถฟอร์คลิฟท์โพรเพน (LPG Forklift) ระบบรถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) การเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ ย่อมต้องพิจารณาถึงหลักความปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวด ล้อมเป็นสำคัญ รถฟอร์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะถือว่าเป็น พลังงานสะอาด ขณะทำงาน ไม่มีควัน เขม่าใด ๆ และเกิดเสียงน้อย ทำให้ดีต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อผู้ใช้ เป็นอย่างมาก และได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าระบบอื่นเสมอ แม้จะรวมถึงกระบวนการ รีไซเคิลแบตเตอรี่ก็ตาม ส่วนรถฟอร์คลิฟท์แบบแก๊สหรือ ฟอร์คลิฟท์โพรเพน (LPG Forklift) และรถ ฟอร์คลิฟท์น้ำมันดีเซล (Diesel forklift) ยังไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่าไอเสียจากการสันดาป อัน ไหนสะอาดกว่า แต่ทั้งสองระบบก็ล้วนมีไอเสียที่เหลือจากระบบทั้งสิ้น